เริ่มการเรียนด้วยการ
แจกอุปกรณ์การเรียน ที่ได้มาจากเงินค่าอุปกรณ์ อ.เบียร์ย้ำเสมอว่า "ให้ไปแล้ว ต้องเอามาใช้ทุกครั้ง" จากนั้นก็ได้มีการทำกิจกรรมทำท่าประกอบเพลงปฐมวัย เพื่อเป็นการแจกปั๊มความดี และเตรียมความพร้อมก่อนที่จพเข้ากิจกรรมหลัก🐸🐸🐸🐸
กิจกรรมต่อไป ให้นักศึกษาวาดรูปสิ่งที่ตัวเองรักลงไปในกระดาษ A4 ที่อ.เบียร์ได้แจกให้ แล้วสลับให้เพื่อนเป็นคุณครู เขียนสิ่งที่เราคิดลงไปในกระดาษแผ่นนั้น พอเสร็จทั้งห้องอ.เบียร์ก็สอนให้นักศึกษารู้จักการถามเด็ก สอนเด็กผ่านกิจกรรมดังกล่าว
แนวทางการจัดประสบการณ์
ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
แนวทางในการจัดประสบการณ์ทางภาษา
🐸 เป็นสิ่งที่สะท้อนปรัชญาและความเชื่อของครูเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
🐸 นำไปสู่การกำหนดการบวนการที่ใช้อย่างแตกต่างกัน
การจัดประสบการณ์ทางภาษาที่เน้นทักษะภาษา ( Skill Approch )
🐸 ให้เด็กรู้จักส่วนย่อยๆของภาษา
🐸 การประสมคำ
🐸 ความหมายของคำ
🐸 นำคำมาประกอบเป็นประโยค
🐸 การแจกลูกสะกดคำ การเขียน
การสอนแบบอ่านแจกลูก ( Phonic ) คือ วิธีการสอนให้เด็กๆรู้จักผสมเสียงตัวอักษรที่นำมารวมกัน เช่น
🐸 การประสมคำ
🐸 พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ตัวสะกด
*** ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติการใช้ภาษาและลักษณะการเรียนรู้ของเด็ก ***
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย
🐸 สนใจ อยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบๆตัว
🐸 ช่างสงสัย ช่างซักถาม

🐸 มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
🐸 ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
🐸 เลียนแบบคนรอบข้าง
การสอนภาษาแบบธรรมชาติ ( Whole Language )
โดยนักทฤษฎีที่มีชื่อว่า Kenneth Goodman
🐸 เสนอแนวทางการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
🐸 มีความเชื่อมดยงระหว่างภาษากับความคิด
🐸 แนวทางการสอนมีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้และธรรมชาติของเด็ก
ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อการสอนภาษาแบบธรรมชาติ Dewey / Piaget / Vygotsky / Haliday
🐸 เด็กเรียนรู้ภาษาจากประสบการณ์และการลงมือกระทำ
🐸 เด็กเรียนรู้จากกิจกรรม การเคลื่อนไหวของตนเองและการได้สัมผัสจับต้องกับสิ่งต่างๆ แล้วสร้างความรู้ขึ้นมาด้วยตนเอง
🐸 อิทธิพลของสังคมและบุคคลอื่นๆ มีผลต่อการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
การสอนภาษาธรรมชาติ
🐸 สอนแบบบูรณาการ / องค์รวม
🐸 สอนในสิ่งที่เด็กสนใจและมีความหมายสำหรับเด็ก
🐸 สอนสิ่งใกล้ตัวและอยู่ในชีวิตประจำวัน
🐸 สอดแทรกการฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ไปพร้อมกับการทำกิจกรรม
🐸 ไม่เข้มงวดกับการท่อง สะกด
🐸 ไม่บังคับให้เด็กเขียน
หลักการของการสอนภาษาธรรมชาติ นฤมน เนียนหอม ( 2540 )
1. การจัดสภาพแวดล้อม
🐸 ตัวหนังสือที่ปรากฏในห้องเรียนจะต้องมีเป้าหมายในการใช้จริงๆ
🐸 หนังสือที่ใช้ จะต้องเป็นหนังสือที่ใช้ภาษาที่มีความสมบูรณ์ในตัว
🐸 เด็กมีส่วนในการจัดสภาพแวดล้อม
2. การสื่อสารที่มีความหมาย
🐸 เด็กสื่อสารโดยมีพื้นฐานจากประสบการณ์จริง
🐸 เด็กอ่านและเขียนอย่างมีจุดมุ่งหมาย
🐸 เด็กได้ใช้เวลาในการอ่านและเขียนตามโอกาส
3. การเป็นแบบอย่าง
🐸 ครูอ่านและเขียนโดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้ให้เด็กเห็น
🐸 ครูเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็นว่าการอ่านเป็นเรียนสนุก
4. การตั้งความคาดหวัง
🐸 ครูเชื่อมั่นว่าเด็กมีความสามารถในการอ่านและเขียน
🐸 เด็กสามารถอ่าน เขียนได้ดีและถูกต้อง
5. การคาดคะเน
🐸 เด็กมีโอกาสที่จะทดลองกับภาษา
🐸 เด็กได้คาดเดาหรือคาดคะเนคำที่จะอ่าน
🐸 ไม่คาดหวังให้เด็กอ่านและเขียนได้เหมือนผู้ใหญ่
6. การใช้ข้อมูลย้อนกลับ
🐸 ตอบสนองความพยายามในการใช้ภาษาของเด็ก
🐸 ยอมรับการอ่านและการเขียนของเด็ก
🐸 ตอบสนองเด็กให้เหมาะสมกับสถานการณ์
7. การยอมรับนับถือ
🐸 เด็กมีความแตกต่างระหว่างบุคคล
🐸 เด็กได้เลือกกิจกรรมที่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง
🐸 ในช่วงเวลาเดียวกันเด็กไม่จำเป้้นต้องทำกิจกรรมอย่างเดียวกัน
🐸 ไม่ทำกิจกรรมตามลำดับขั้นตอน
8. การสร้างความรู้สึกเชื่อมั่น
🐸 ให้เด็กรู้สึกปลอดภัยที่ใช้ภาษา
🐸 ครูจะต้องทำให้เด็กไม่กลัวที่ขอความช่วยเหลือ
🐸 ไม่ตราหน้าเด็กว่าไม่มีความสามารถ
🐸 เด็กมีความเชื่อมั่นว่าตนมีความสามารถ
บทบาทครู ( นิรมล ช่างวัฒนชัย, 2541 )
🐸 ครูคาดหวังเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน
🐸 ใช้ประสบการณ์ตรงในการสนับสนุนการอ่าน เขียน
🐸 ครูควรยอมรับกับความไม่ถูกครบถ้วนของเด็ก
🐸 ครูสร้างความสนใจในคำและสิ่งพิมพ์
ผู้ที่ถ่ายทอดความรู้
⬇
ผู้อำนวยความสะดวก
⬇
ผู้ร่วมทางการเรียนรู้ ไปพร้อมๆกับเด็ก
ประเมินอาจารย์ : อ.เบียร์หากิจกรรมมาให้เพื่อนๆนักศึกษาทำสนุกมากค่ะ
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆทำผลงานกันออกมาได้น่ารักมาก
ประเมินตัวเอง : จะเรงเรียนตามเพื่อนให้ทันค่ะ
💚💚💚💚💚💚💚💚💚💚